จำหน่าย ออกแบบ เขียนแบบ ติดตั้ง งานระบบไฟฟ้า หาดใหญ่ สงขลา - เอ็ม.อี.อี.ซีสเต็มแอนด์ซัพพลาย

Insulation Test

by meesystem @11 พ.ค. 68 12:25 ( IP : 113...7 ) | Tags : Actions - กิจกรรม
  • photo  , 960x1280 pixel , 112,141 bytes.
  • photo  , 960x1280 pixel , 106,704 bytes.
  • photo  , 960x1280 pixel , 112,141 bytes.
  • photo  , 960x1280 pixel , 86,337 bytes.
  • photo  , 960x1280 pixel , 111,455 bytes.

ทดสอบตามมาตรฐานก็ทำได้ คือการป้อนแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง (Vdc) เข้าไปที่สายไฟ โดยขนาดไม่เกินพิกัดแรงดันที่ใช้ในการทดสอบจะต้องไม่สูงกว่าแรงดันพิกัดของสายนั้น เช่น สายระบุว่าแรงดันใช้งานอยู่ที่ 500V ก็จะต้องทดสอบโดยใช้แรงดันไม่เกิน 500V ข้อควรระวังในการทดสอบจะต้องปลดสายทั้งสองฝั่งออกจากเบรกเกอร์ และโหลดที่ต่ออยู่ เพราะเรากำลังป้อนแรงดันเข้าไป 500V เข้าไปหากปลายสายมีการต่อโหลดอยู่จะทำให้โหลดเสียหายได้  และเรากำลังวัดค่าความเป็นฉนวนเฉพาะของสายไฟ ดังนั้นที่ปลายสายจะต้องปล่อยลอยไว้ ไม่สัมผัสกับวัสดุอะไรที่สามารถนำกระแสลงดินได้ โดยการทดสอบจะป้อนแรงดันเข้าไปเป็นคู่ เช่น R-S, S-T, T-R, R-N, S-N, T-N, R-G, S-G, T-G โดยปกติสายที่ไม่มีปัญหาก็จะค่าความต้านทานของฉนวนสูงเป็น 1 เมกะโอห์ม (1,000,000 ohm) หรือ สูงกว่า บ้างครั้งอาจจะสูงจนเครื่องอ่านเป็นอินฟินิตี้ ก็คือสูงเกินค่าของเครื่องที่จะอ่านได้ ก็ให้บันทึกค่าสูงสุดของเครื่องไว้ในตาราง โดยอ้างอิงตามมาตรฐาน IEC60364-6 : 2016 สำหรับการทดสอบที่แรงดัน 500Vdc และ 1000Vdc สายไฟที่ยังมีค่าความเป็นฉนวนอยู่ในค่าที่ย่อมรับได้คือไม่ต่ำกว่า 1 เมกะโอห์ม (ตามตารางในรูป) การป้อนแรงดันไฟฟ้าเข้าไปที่สายไฟก็เหมือนการป้อนแรงดันน้ำเข้าไปในท่อ หากมีจุดใดเสียหายท่อน้ำก็จะแตกหรือมีน้ำรั่วออกมา เช่นเดียวกับการทดสอบความเป็นฉนวนของสายไฟหากมีจุดใดฉนวนมีปัญหาก็จะทำให้เกิดกระแสไฟรั่วหรือวัดค่าความต้านทานของฉนวนได้ต่ำ หลักการของเครื่องทดสอบฉนวนก็คือ เราป้อนแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงไปที่คงที่ไปตกคร่อมสายไฟ แล้ววัดปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านสายไฟ โดยคำนวณจากกฎของโอห์มเพื่อหาค่าความต้านทานนั้น หากมีกระแสไฟรั่วเยอะก็จะทำให้ค่าความต้านทาน (Resistance) ที่วัดได้ต่ำ หากมีกระแสรั่วน้อยหรือฉนวนดีค่าความต้านทานที่วัดได้ก็จะออกมาสูง (R = V/I) การวัดค่าความเป็นฉนวนของสายไฟฟ้ามีมาตรฐานที่กำหนดโดยองค์กรระหว่างประเทศและหน่วยงานมาตรฐานในแต่ละประเทศ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้า มาตรฐานหลักที่เกี่ยวข้องมีดังนี้: วิธีการวัดค่าความเป็นฉนวน การวัดค่าความต้านทานฉนวน (Insulation Resistance - IR) มักใช้ Megger (Insulation Tester) โดยมีหลักการดังนี้: 1. แรงดันทดสอบ (ตามมาตรฐาน):   - สายไฟแรงดันต่ำ (≤ 1,000 V) : 500–1,000 V DC   - สายไฟแรงดันสูง (> 1,000 V) : 2,500–5,000 V DC 2. เงื่อนไขการทดสอบ:   - อุณหภูมิและความชื้นต้องอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด (มักอ้างอิงที่ 20–30°C)   - ค่าความต้านทานฉนวนควรมีค่าไม่ต่ำกว่า 1 MΩ (ขึ้นกับมาตรฐานเฉพาะ)

เกณฑ์การยอมรับ - IEC 60364-6 : ค่าความต้านทานฉนวนขั้นต่ำควรอยู่ที่ 0.5 MΩ สำหรับระบบแรงดันต่ำ (แต่ค่าที่แนะนำมักสูงกว่า 1 MΩ) - IEEE 43 : ค่าความต้านทานฉนวนของมอเตอร์ควรมีค่า ≥ (แรงดันใช้งาน + 1,000) V / 1 MΩ

*ปัจจัยที่มีผลต่อค่าฉนวน** - อุณหภูมิ (ค่าฉนวนลดลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น) - ความชื้น (ความชื้นสูงทำให้ค่าฉนวนต่ำลง) - อายุการใช้งาน (ฉนวนเสื่อมสภาพตามเวลา)

หากค่าความต้านทานฉนวนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แสดงว่ามีความเสี่ยงไฟฟ้ารั่วหรือช็อต ต้องตรวจสอบและแก้ไขก่อนใช้งานเสมอ

แสดงความคิดเห็น

« 6739
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง